- Admin
- 09/Sep/2024 05:23 am
- Bones & JOINT
- 0 View
ทำไมต้องน้ำมันปลาจากหัวปลาทูน่าทะเลน้ำลึก
ทำไมต้องน้ำมันปลาจากหัวปลาทูน่าทะเลน้ำลึก
หลาย ๆ คนคงรู้จักน้ำมันปลา (Fish oil) อาหารเสริมคุณภาพที่จะมาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของระบบประสาทและสมอง และยังมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดลือด แต่ถ้าคุณเดินเข้าไปที่ร้านขายยา หรือสถานที่สำหรับซื้ออาหารเสริม คุณจะพบว่ามีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกลุ่มน้ำมันปลาวางเรียงรายมากมายไปหมด หลาย ๆ คนก็จะมองว่ามันเหมือน ๆ กัน ซื้ออันไหนก็ได้ ได้ประโยชน์เหมือนกัน แต่หารู้ไม่ว่าการได้ประโยชน์เหมือนกันนั้นไม่ได้แปลว่าจะได้ประสิทธิภาพของประโยชน์นั้นเท่ากัน เพราะน้ำมันปลาจากแต่ละแหล่งที่มานั้นก็จะให้ประสิทธิภาพต่อการบำรุงระบบประสาทและสมองที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจะมาเป็นน้ำมันปลาเหมือนกันไม่ได้
แล้วน้ำมันปลาจากแหล่งไหนที่มีประสิทธิภาพดีพอ?
จากงานวิจัยหลายฉบับระบุว่าน้ำมันปลานั้นอุดมไปด้วยโอเมกา-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งร่างกายของมนุษย์นั้นไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เอง โดยโอเมกา-3 ที่มีความน่าสนใจคือ docosahexaenoic acid (DHA) และ eicosapentaenoic acid (EPA) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบในร่างกายที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้การได้รับ DHA และ EPA ที่มากเพียงพอนั้นจะไปเสริมสร้างระบบประสาทและสมอง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์รวมไปถึงมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย
โดยมีการค้นพบว่าบริเวณส่วนหัวของปลาทะเลน้ำลึกนั้นเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวอย่างมหาศาล ทำให้ในปัจจุบันมีการนำหัวปลาทะเลน้ำลึกมาสกัดเพื่อนำเอากรดไขมันไม่อิ่มตัวออกมาทำเป็นอาหารเสริมกลุ่มน้ำมันปลามากมาย ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่า ปลาแซลมอน หรือปลาคาร์ป ทำให้ปลาทั้งสามชนิดเป็นปลาที่มักถูกนำมาใช้ในการทำวิจัยเพื่อหาน้ำมันปลาที่มีประสิทธิภาพ และจากผลการวิจัยพบว่า “ปลาทูน่าคือแหล่งของกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวที่ดีที่สุด เหมาะกับการนำมาทำเป็นอาหารเสริมกลุ่มน้ำมันปลามากที่สุด” เมื่อเทียบกับปลาแซลมอนและปลาคาร์ป เนื่องจากในปลาทูน่าทะเลน้ำลึกนั้นมีปริมาณของ DHA และ EPA รวมกันมากถึง 64.29% ของไขมันทั้งหมดในหัวปลา ในขณะที่ปลาแซลมอนและปลาคาร์ปมีไม่ถึง 20% ทำให้การเลือกกินผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาที่สกัดออกมาจากปลาทูน่าทะเลน้ำลึกนั้นจะให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
และในส่วนของการวิจัยพบว่ามีการตีพิมพ์ข้อมูลงานวิจัยหลายฉบับว่าการกินอาหารเสริมอย่างน้ำมันปลาที่ประกอบไปด้วย EPA และ DHA ปริมาณมากนั้นมีส่วนช่วยในการต้านการอักเสบ ลดการเกิดเบตา-อะไมลอยด์ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคอัลไซเมอร์ สร้างความยืดหยุ่นที่บริเวณเนื้อเยื่อเซลล์ สนับสนุนการส่งสัญญาณประสาท รวมไปถึงช่วยกระตุ้นการสร้างและการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาท เนื่องจากอัตราส่วนไขมันภายในสมองนั้นมี DHA ประกอบอยู่มากถึง 20%
โดยในการทดสอบกับผู้คนจำนวนมากพบว่าการกินน้ำมันปลานั้นช่วยลดการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ รวมไปถึงมีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพทางการเรียนรู้ทั้งด้านความจำ การอ่าน หรือการใช้ภาษา ทำให้การกินน้ำมันปลาที่ได้มาจากปลาทูน่าทะเลลึกที่อุดมไปด้วย DHA คุณภาพดีและมีปริมาณสูงนั้นจะช่วยบำรุงสมองให้แข็งแรงและลดความเสี่ยงการเป็นอัลไซเมอร์ได้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- Longdom, Purification and function of EPA and DHA in tuna fish oil,Longdom, Sep 2021. From; https://www.longdom.org/proceedings/purification-and-function-of-epa-and-dha-in-tuna-fish-oil-5598.html
- Jing Zhang 1, Ningping Tao 1,*, Yueliang Zhao 1, Xichang Wang 1 and Mingfu Wang 1,2,*. Comparison of the Fatty Acid and Triglyceride Profiles of Big Eye Tuna (Thunnus obesus), Atlantic salmon (Salmo salar) and Bighead Carp (Aristichthysnobilis) Headsmolecules,molecules,Sep 2021; From https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6864674/pdf/molecules-24-03983.pdf
- Rossella Avallone 1, Giovanni Vitale 2, Marco Bertolotti 3. Omega-3 Fatty Acids and Neurodegenerative Diseases: New Evidence in Clinical Trials. National Library of medicine. Sep 2021. From; https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/31480294/