img

ผิวที่เริ่มร่วงโรย กำลังส่งสัญญาณให้คุณต้องรีบซ่อมแซม

img
  • Admin
  • 30/Sep/2021 07:00 pm
  • Bones & JOINT
  • 0 View


       ผิวหนังคืออวัยวะที่กินพื้นที่มากที่สุดในร่างกายของมนุษย์ ที่จะทำหน้าที่เป็นเหมือนโล่คอยป้องกัน อวัยวะภายใน รวมไปถึงการที่ต้องเผชิญหน้ากับแสง UV และฝุ่นควันซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเกิดความหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัย โดยปัจจัยทั้งหมดทั้งมวลนั้นจะส่งผลต่อระดับเซลล์ผิวหนังที่ลดลงจากการที่กระบวนการสร้าง คอลลาเจนอิลาสตินนั้นลดน้อยลง สุดท้ายแล้วคุณก็จะมีผิวที่ไร้ความกระชับและแห้งกร้าน


       การที่ร่างกายของคุณกำลังส่งสัญญาณต่าง ๆ ให้คุณได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาจากการแสดงสีหน้าของคุณ การเกิดร่องลึกใต้ดวงตาจากความเครียดและขาดการพักผ่อน ปัญหาร่องแก้มจากผิวที่เริ่มหย่อนคล้อย ผิวที่แห้งกร้านไร้ความสดใส รวมไปถึงริมฝีปากที่ไม่อวบอิ่มเหมือนแต่ก่อน นั้นแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังสูญเสียคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนังคุณ


คุณจะนิ่งเฉยกับสัญญาณเตือนภัยเหล่านี้จริงหรือ ?



        คอลลาเจนไดเปปไทด์เป็นโมเลกุลของกรดอะมิโน 2 ชนิด เกาะกันด้วยพันธะเปปไทด์ มีโมเลกุลเล็กที่สุดเพียง 200 Da หากเทียบกับคอลลาเจนไตรเปปไทด์แล้วให้เห็นภาพได้ก็คงเป็น ขนาดของก้อนกรวดกับเม็ดทรายเลยทีเดียว โดยคอลลาเจนไดเปปไทด์นั้นถือเป็นคอลลาเจนที่มีอัตราการดูดซึมเข้าสู่ลำไส้ที่ดี ผลข้างเคียงต่ำ และมีประสิทธิภาพสูงกว่าชนิดอื่น ๆ ที่สามารถกระตุ้นการเพิ่มจำนวนเซลล์ไฟโบบลาสต์ ที่มีบทบาทในการสังเคราะห์คอลลาเจน ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว นอกจากนี้แล้วยังสามารถกระตุ้นการสังเคราะห์กรดไฮยารูโลนิกที่มีบทบาทในการช่วยหล่อลื่น ลดการฝืดตึงของบริเวณข้อ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้


         มีรายงานการศึกษาในคนโดยให้อาสาสมัครทั้ง 85 คน ที่มีอายุเฉลี่ยที่ 42 ปี กินคอลลาเจนแบบ blind test โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มได้แก่ 1.กลุ่มกินยาหลอก 2.กลุ่มกินคอลลาเจนไดเปปไทด์ไม่เข้มข้น (L-CP) และ 3.กลุ่มกินคอลลาเจนไดเปปไทด์เข้มข้น (H-CP) โดยทำการทดลองทั้งสิ้น 8 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า คอลลาเจนไดเปปไทด์สามารถฟื้นฟูคุณสมบัติของผิวในด้านต่าง ๆ 

         ได้แก่ 1.ความชุ่มชื้นของผิวหน้า 2.ความยืดหยุ่นของผิว 3.ริ้วรอยและความหยาบกร้าน


         และแน่นอนว่า คอลลาเจนไดเปปไทด์เข้มข้นสูง สามารถฟื้นฟูผิวได้ดีกว่าคอลลาเจนไดเปปไทด์เข้มข้นต่ำ ส่วนยาหลอก แม้ว่าร่างกายจะรับคอลลาเจนไปชนิดเดียวกันแต่ปริมาณความเข้มข้นไม่เพียงพอจึงทำให้ผลลัพธ์ที่ได้น้อยที่สุด

        นอกจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาว่าการกินคอลลาเจนในปริมาณ 2,500 mg ต่อวันนั้นสามารถกอบกู้ให้ผิวของเรามีคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้น ริ้วรอยเล็ก ๆ ดูจางลง เพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น และแก้ปัญหาผิวแห้งกร้านไปได้หลังกินเพียง 4 - 12 สัปดาห์ ทำให้การกินคอลลาเจนไดเปปไทด์เสริมเข้าไปนั้นมีแนวโน้มที่ดีต่อการฟื้นฟูผิวและชะลอวัย


ข้อมูลแหล่งอ้างอิง

  • Matsuda N, Koyama Y, Hosaka Y, Ueda H, Watanabe T, Araya T, Irie S, Takehana K. Effects of ingestion of collagen peptide on collagen fibrils and glycosaminoglycans in the dermis. J Nutr Sci Vitaminol (Tokyo). 2006 Jun;52(3):211-5.
  • Liang J, Pei X, Zhang Z, Wang N, Wang J, Li Y. The protective effects of long-term oral administration of marine collagen hydrolysate from chum salmon on collagen matrix homeostasis in the chronological aged skin of Sprague-Dawley male rats. J Food Sci. 2010 Oct;75(8)
  • Proksch E, Schunck M, Zague V, Segger D, Degwert J, Oesser S. Oral intake of specific bioactive collagen peptides reduces skin wrinkles and increases dermal matrix synthesis. Skin Pharmacol Physiol. 2014;27(3):113-9.
  • Erratum: Daily Consumption of the Collagen Supplement Pure Gold Collagen® Reduces Visible Signs of Aging [Corrigendum]. Clin Interv Aging. 2020;15:131. Published 2020 Feb 4. doi:10.2147/CIA.S246397
  • Fumihito Sugihara 1) * Naoki Inoue1) Xuemin Wang2). Clinical Effects of Ingesting Collagen Hydrolysate on Facial Skin Properties-A Randomized, Placebo-controlled, Double-blind Trial-.Effects-of-Ingesting-Collagen-Hydrolysate-on-Facial-Skin.pdf.1-4 2015



Tags:
กินแคลเซียม แล้วท้องผูก!?
คอลลาเจนไดเปปไทด์100% ความมหัศจรรย์ที่คุณยังไม่รู้